ที่มา https://www.gotoknow.org/posts/520759
นางวันทอง
นางพิมพิลาไลยเป็นหญิงรูปงามแต่ปากจัดเป็นบุตรของพันศรโยธาและนางศรีประจัน ต่อมาได้แต่งงานกับพลายแก้วซึ่งภายหลังมีลูกชายด้วยกัน
คือ พลายงาม และได้เปลี่ยนชื่อเป็นนางวันทอง ต่อมานางถูกแม่บังคับให้แต่งงานใหม่กับขุนช้างทำให้ถูกประนามว่าเป็นหญิงสอง
ใจ นางวันทองเป็นคนที่ไม่กล้าที่จะตัดสินใจ เมื่อมีคดีฟ้องร้องถึงสมเด็จพระพันวษา
ซึ่งพระองค์ให้นางเลือกว่าจะอยู่กับใครแต่นางตัดสินใจไม่ถูกจึงถูกสั่ง ประหารชีวิต
นางวันทองมีลักษณะสาวชาวบ้านจึงเป็นคนซื่อ
ไม่ค่อยฉลาดเท่าใดนัก ทำอะไรก็ทำตามประสาหญิงชาวบ้าน แต่สังคมไทยมีความจำกัดให้ผู้หญิงอยู่ในกรอบของประเพณี
จึงทำให้ดูเหมือนว่านางวันทองไม่รักนวลสงวนตัว
อย่างไรก็ตาม
นางวันทองก็ยังมีภาพลักษณ์ด้านดีที่เห็นได้ชัด คือ ความละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการรับรู้ถึงความดีของผู้อื่นที่ปฏิบัติต่อนาง
ดังจะเห็นได้จาก
ถึงแม้นางจะไม่ได้รักขุนช้างแต่ด้วยความดีของขุนช้างและความผูกพันที่อยู่
กันมา 15 ปี ทำให้นางเป็นห่วงเป็นใยความทุกข์สุข และความรู้สึกของขุนช้างไม่น้อย
นางวันทองยังเป็นแม่ที่ดี คือเมื่อเห็นลูกกำลังกระทำผิดก็ไม่เห็นดีเห็นงามด้วย
ดังจะเห็นได้จากตอนที่พลายงามบุกขึ้นเรื่อนขุนช้างในยามวิกาล นอกจากนี้นางวันทองยังเป็นคนกล้าที่จะยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
มีน้ำใจเมตตา และให้อภัยโดยไม่เคียดแค้น
ขุนแผน
ขุนแผนเดิมชื่อพลายแก้วเป็นบุตรของขุนไกรพลพ่ายและนางทองประศรีมีรูปร่าง
หน้าตางดงามคมสัน สติปัญญาเฉลียวฉลาด ด้วยลักษณะนิสัยเป็นคนเจ้าชู้และมีคารมคมคาย จึงง่ายต่อการพิชิตใจหญิงสาวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของพลายแก้ว
มีดาบฟ้าฟื้นเป็นอาวุธประจำตัว พาหนะคู่ใจคือม้าสีหมอก ได้บวชเณรและเรียนวิชาที่วัดส้มใหญ่
แล้วย้ายไปเรียนต่อที่วัดป่าเลไลยจนสุดท้ายไปเป็นศิษย์สมภารคง วัดแค มีความรู้ทางโหราศาสตร์
ปลุกผี อยู่ยงคงกระพันคาถามหาละลวยทำให้ผู้หญิงรักตลอดจนวิชาจากตำรับพิชัยสงคราม และยังมีความสามารถเทศนได้ไพเราะจับใจอีกด้วย
ต่อมาสึกจากเณรแล้วแต่งงานกับนางพิมพาลาไลย ไม่นานก็ถูกเรียกตัวไปเป็นแม่ทัพรบกับเชียงใหม่
ครั้นได้ชัยชนะกลับมาก็ได้เป็นขุนแผนแสนสะท้านแต่ปรากฎว่าภรรยาแต่งงาน
ใหม่กับขุนช้าง ภายหลังขุนแผนต้องโทษถูกจำคุกถึง ๑๕ ปี
จึงพ้นโทษ และทำสงครามกับเชียงใหม่อีกครั้งเมื่อชนะกลับมาก็ได้ตำแหน่งเป็นพระสุริน
ทรฤาไชย เจ้าเมืองกาญจนบุรี.
ที่มา http://km.nssc.ac.th/external_newsblog.php?links=2105
ขุนช้างมีลักษณะรูปชั่วตัวดำหัวล้านมาแต่กำเนิดนิสัยเจ้าเล่ห์เพทุบายเป็นบุตรของขุนศรีวิชัยและนางเทพทองซึ่งมีฐานะร่ำรวย มาก ขุนช้างแม้จะเกิดมาเป็นลูกเศรษฐีแต่ก็อาภัพถูกแม่เกลียดชังเพราะอับอายที่มี
ลูกหัวล้าน จึงมักถูกแม่ด่าว่าอยู่เสมอและไม่ว่าจะเดินไปทางใดก็จะเป็นที่ขบขันล้อเลียน
ของชาวบ้านทั่วไปเสมอ พอเป็นหนุ่มก็ได้นางแก่นแก้วเป็นภรรยาอยู่ด้วยกันได้ปีกว่านางก็ตาย
จึงหันมาหมายปองนางพิมพิลาไลยแต่นางไม่ยินดีด้วยและได้แต่งงานกับพลายแก้ว แต่ขุนช้างก็ยังไม่ลดความพยายามคงใช้อุบายจนได้แต่งงานกับนางสมใจปรารถนา
ข้อดีของขุนช้าง คือรักเดียวใจเดียวและเลี้ยงดูนางวันทองเป็นอย่างดีทำให้นางวันทองเริ่มเห็น
ใจขุนช้าง
ที่มา http://km.nssc.ac.th/external_newsblog.php?links=2105
สมเด็จพระพันวษา
สมเด็จพระพันวษา
เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ยุคนี้เป็นยุคที่บ้านเมืองเจริญรุ่งรือง มีความอุดมสมบูรณ์ราษฎรทั้งหลายอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข
บรรดาประเทศใกล้เคียงก็อ่อนน้อม เพราะยำเกรงบารมี
สมเด็จพระพันวษามีนิสัยโกรธง่าย จะเห็นได้จากตอนที่ ให้นางวันทองเลือกว่าจะอยู่กับใคร
นางมีความลังเล เลือกไม่ได้ว่าจะอยู่กับใคร พระพันวษาทรงโกรธจึงรับสั่งให้ประหารชีวิต
แต่พระองค์ก็นับว่าเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความยุติธรรมต่อพวกทหาร
เสนาอำมาตย์ และราษฎรพอสมควร เมื่อมีคดีฟ้องร้องกัน
ก็จะให้มีการไต่สวน และพิสูจน์ความจริง
ที่ มา https://sites.google.com/site/khunchangkhungphaen/taw-lakhr-ni-reuxng-khun-chang-khunphaen/phlay-ng
พลายงาม
พลายงาม มีตำแหน่งราชการเป็น
จมื่นไวยวรนาถ ซึ่งมักเรียกสั้นๆ ว่า พระไวย หรือหมื่นไวย
เป็นลูกของขุนแผนกับนางวันทอง แต่ไปคลอดที่บ้านของขุนช้าง
ยิ่งโตพลายงามก็ยิ่งละหม้ายคล้ายขุนแผนมาก
มีอุปนิสัยความสามารถคล้ายขุนแผน ข้อดีของพลายงามคือมีความสามารถในการออกรบทำศึกสงคราม
พลายงามมีความกตัญญู ตอนที่พลายงามไปช่วยพ่อขุนแผนที่คุกโดยอาสาขอให้พ่อขุนแผนไปทัพด้วยและได้
ชัยชนะกลับมา ทำให้พระพันวษายกโทษให้
ข้อเสียของพลายงาม คือ เป็นถึงขุนนางแต่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม
คือตอนที่ว่าพลายงามบุกขึ้นเรื่อนขุนช้างในยามวิกาลเพื่อที่จะลักพาตัวแม่
วันทองมาอยู่ด้วยทำให้ขุนช้างโกรธจึงฟ้องถวายฎีกาและยังมีความเจ้าชู้ ตอนที่ว่าพลายงามได้นางสร้อยฟ้าและนางศรีมาลาเป็นเมีย
แต่เจ้าชู้น้อยกว่าขุนแผน
ขอบคุณที่ มา http://manidaning.blogspot.com/p/blog-page_5769.html